ยินดีต้อนรับจ้า ^_^ Welcome

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2557

กินกลูต้าให้ได้ผลจริงให้เห็นผลเร็ว และวิธีการกินที่ถูกต้องร่วมกับวิตามินซี+อะเซโรล่าเชอรรี่

เนื่องจากว่าวันนี้เราได้ลองอาหารเสริมตัวหนึ่ง มีกลูต้าไธโอน และเป็นอะเซอโรล่าเชอรรี่ (มีสรรพคุณคล้ายวิตามินซีแต่ดีกว่า) จึงอยากมาแนะนำเคล็ดลับการกินกลูตาที่ถูกต้องให้ได้ผล และการกินร่วมกับวิตามินซี หรืออะเซอโรล่าเชอรรี่

 แบบถูกต้อง เห็นผลเร็ว และปลอดภัยมาฝากกัน


นี้คืออาหารเสริมที่เราได้กินจริง real l-glutathione complex+real acerola cherry 


เราว่าดูกันตัวแรกว่า real l-glutathione complex ดีอย่างไร???

นี้คือส่วนผสมใน 1 เม็ด ที่ใส่แบบเต็มที่ตามที่ อย. กำหมด และที่สำคัญมี อย. รับรองทะเบียนอย.เลขที่ 11-1-11754-1-0035

  • แอล-กลูต้าไธโอน            250 มก.
  • แอล-ซิสเทอีน                   85 มก.
  • แอล-ไกลซีน                    85 มก.
  • แอล-กลูตามีน                  85 มก.
  • วิตามินซี                          60 มก.
  • กรดอัลฟาไลโปอิก             50 มก.
  • วิตามินอี50%                   20 มก. (ให้วิตามินอี 9.11 IU)
  • ไพริดอกซีน ไฮโดรคลอไรด์    2 มก. (ให้วิตามินบี6   1.6454 มก.)
  • ไรโบฟลาวิน                   1.7 มก. (ให้วิตามินบี2)
  • ไทอะมีน โมโนไนเตรต     1.5 มก. (ให้วิตามินบี1  1.224 มก.)
  • วิตามินบี12                       2 มคก.
ตัวต่อไป real acerola cherry



อะเซโรล่า เชอร์รี่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติซึ่งให้วิตามินซีสูงมากกว่าส้มถึง 50 เท่า
และยังมีโมเลกุลที่เล็กกว่าวิตามินซี จึงทำให้ดูดซึมดีกว่าวิตามินซี

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 เม็ด
  • อะเซโรล่า เชอร์รี่ สกัด 1200 มก.
  • ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ 50 มก.

มาดูวิธีการกินกลูต้าให้ได้ผลเร็วดีกว่า-->

การรับประทานกลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้น ตามหลักวิชาการควรรับประทานอย่างไร ?                                                   
      ขนาดที่รับประทานคือ 20-40 mg/kg/day แบ่งให้ 2-3 ครั้ง ตัวอย่างเช่น ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 1000-2000 mg. ซึ่งดูแล้วก็หนักเอาการไม่น้อยเลย กับการรัปประทานกลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาว เดือนๆนึงก็ตกหลายบาทอยู่เหมือนกัน  แต่เราก็มีวิธีที่จะประหยัดลงได้ก็คือ ให้รับประทานเพียงวันละ 10 mg/kg/day แล้วให้ทานสาร antioxidize อื่นๆคู่กันด้วย เช่น Vitamin C หรือ Vitamin E ซึ่งหากทานวิตามินซีคู่กับกลูต้าไธโอนจะต้องรับประทานเป็น 2 เท่าของกลูต้าไธโอน     ตัวอย่างเช่น..ถ้าคนหนัก 50 กิโลกรัม ถ้าจะทานกลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาวจะต้องทานวันละ 500 mg. คู่กับวิตามินซีวันละ 1000 mg. ซึ่งสาร antioxidize จะทำกลูต้าไธโอนที่อยู่ในร่างกายคงรูปร่างอยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้นานขึ้น ค่ะ  นั่นก็หมายถึงประสิทธิภาพของกลูต้าไธโอนก็เพิ่มขึ้นไปด้วยนั่นเอง เมื่อประสิทธิภาพของกลูต้าไธโอนสูงขึ้นเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทานปริมาณ เยอะๆอีกแล้ว 


ช่วงเวลารับประทานที่จะทำให้กลูต้าไธโอนถูกดูดซึมดีที่สุด ..
       ก็คือ "ตอนท้องว่าง" ค่ะ ซึ่งคนเราจะท้องว่างจริงๆก็คือ ตอนก่อนจะนอนและตอนตื่นนอนใหม่ๆ  แต่ถ้าหากไม่สะดวกช่วงเวลานี้ ก็ทานก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาทีได้ หากจะทานคู่กับวิตามินซีในตอนท้องว่างก็ได้ เพราะวิตามินซีก็ดูดซึมดีที่สุดตอนท้องว่างเหมือนกัน แต่วิตามินซีมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร แสบท้อง กัดกระเพาะนั่นเอง หากต้องทานเป็นเวลานานๆ หรือ หากเป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว หรือ เริ่มมีอาการดังกล่าวก็ให้เปลี่ยนมากินหลังอาหารแทนได้ เฉพาะวิตามินซี กลูต้าไธโอนก็ทานตอนท้องว่างเหมือนเดิม  สรุปก็คือการรับ ประทานกลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้นให้รับประทานตอนท้องว่างวันละ 10 mg/kg/day ควบคู่กับรับประทานสาร antioxidize(วิตามินซี) 2 เท่าของกลูต้าไธโอนนั่นเอง

ข้อแนะนำในการทานกลูต้าไธโอน .
     เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ควรจะรับประทานอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน อาจทานควบคู่กับสาร antioxidize อื่นด้วยก็ได้ นอกจากการทานอย่างต่อเนื่องแล้วเรื่องที่สำคัญอีกเรื่องที่หลายๆคนมองข้ามก็ คือ เรื่องของการหลีกเลี่ยงแสงแดดนั่นเองใช่ไหม

มาทำความเข้าใจกันก่อนค่ะว่าการหลีกเลี่ยงแสงแดดนั้นมันสำคัญอย่างไร ?

         เราทานกลูต้าไธโอนก็เพื่อทำให้ผิวของเราขาวขึ้น ด้วยกระบวนการที่กลูต้าไธโอนไปยับยั้งการสร้างเม็ดสีนั่นเองค่ะ เมื่อเราทานต่อเนื่องเป็นเวลาสักระยะหนึ่งเม็ดสีตัวที่ทำให้ผิวมีสีคล้ำก็ ถูกสร้างน้อยลง ๆ ประกอบกับผิวเดิมของเราที่มีสีคล้ำก็ถึงเวลาผลัดเปลี่ยนออกมาเป็นขี้ไคล ผิวเราจึงค่อยๆขาวขึ้นนั่นเองค่ะ  ขอย้ำนะคะว่าค่อยๆขาวขึ้น ไม่ขาวขึ้นอย่างรวดเร็วทันตาเห็นใน 3 วัน 7 วัน ถึงแม้จะทานกลูต้าไธโอนวันละ 10 -20 เม็ด ก็ไม่ได้ช่วยให้ขาวเร็วขึ้นแน่นอน เป็นไปไม่ได้เลย เพราะกว่าผิวเดิมของเราที่มีสีคล้ำจะผลัดเปลี่ยนไปเป็นขี้ไคลก็ใช้เวลาหลาย สัปดาห์ โดยปกติ 28 วัน เร็วหรือช้ากว่านี้ก็แล้วแต่ลักษณะผิวของคน คนผิวแห้งจะผลัดเร็วกว่าคนผิวมันครับ เด็กจะผลัดเร็วกว่าคนแก่ ก็เหมือนกับกระดาษสีดำทับกระดาษสีขาว หากไม่เอากระดาษสีดำที่ทับอยู่ออก ก็จะไม่เห็นกระดาษสีขาว
           แสงแดดนี่เองค่ะเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวเราสร้างเม็ดสี เพื่อป้องกันตัวเองจากแสงแดด ยิ่งโดนแสงแดดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งกระตุ้นให้ผิวสร้างเม็ดสีมากยิงขึ้น ผิวก็เลยคล้ำๆ หากเราทานกลูต้าไธโอนยับยั้งการสร้างเม็ดสี แต่เราไม่หลีกเลี่ยงแสงแดดที่กระตุ้นให้สร้างเม็ดสี ก็แทบจะไม่เห็นผล เหมือนกับนำช่างสร้างบ้านกับนำช่างรื้อถอนมาอยู่ด้วยกัน บ้านหลังนี้สร้างเป็น 10 ปีก็ไม่เสร็จ
           เพราะฉนั้นเพื่อให้ผิว ขาวขึ้น เราควรที่จะรับประทานกลูต้าไธโอนในปริมาณพอเหมาะ(ปริมาณที่อยูในระดับ ยับยั้งเม็ดสี)อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับหลีกเลี่ยงแสดแดด หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ให้ทาครีมกันแดดอยู่เป็นประจำ ซึ่งครีมกันแดดก็มีอยู่หลายชนิด แล้วแต่จะเลือกใช้ค่ะ

**  อย่าลืมทุกครั้งที่ทานกลูต้าต้องทานคู่กับวิตมินซีหรืออีเพื่อให้กลูต้าดูดซึมเข้าร่างการได้   ดีขั้น  ถ้าเราทานแต่กลูต้าอย่างเดียวรับรองว่าไม่มีผลจ่ะ  แล้วต้องทานตอนท้องว่างถึงจะดีที่สุด  ก่อนนอน หรือ ตอนตื่นนอนก็ได้ค่ะ ทานกับน้ำอุ่น แล้วดื่มน้ำเยอะรับรองไม่กี่อาทิตย์สวย!!!!!

  **ไม่ควร ดื่มเคื่รองดื่มที่มี แอลกอฮอล์  ดูดบุหรี่ ทานของหมักดอ'และผลไม้บางชนิด เช่นแตงโมค่ะ


   **กลูต้ากินตอนท้่องว่าง ก่อนอาหารมากกว่า30 นาที หรือหลังอาหารมากกว่า 1 ชั่วโมง หรือก่อนนอน 3 ชั่วโมง หากจะทานคู่กับวิตามินซีในตอนท้องว่างก็ได้ เพราะวิตามินซีก็ดูดซึมดีที่สุดตอนท้องว่างเหมือนกัน แต่วิตามินซีมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร แสบท้อง กัดกระเพาะนั่นเอง หากต้องทานเป็นเวลานานๆ หรือ หากเป็นโรคกระเพาะอาหารอยู่แล้ว หรือ เริ่มมีอาการดังกล่าวก็ให้เปลี่ยนมากินหลังอาหารแทนได้


**ถ้ากินคู่กับอะเซโรล่าเชอรรี่สามรถกินตอนท้องว่างพร้อมกันได้เลย เนื่องจากเป็นวิตามินซีที่ได้จากธรรมชาต จึงไม่ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร และให้วิตามินซีสูกกว่าส้มถึง 50 เท่า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น